Sunday, November 25, 2007

เกร็ดความรู้

เกร็ดความรู้
1.เคล็ด (ไม่) ลับกับการอุ่นนม ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบการดื่มนมร้อนๆ แล้วมักจะเอาภาชนะ ใส่นมพร้อมอุ่น ปัญหาที่ตามมาก็คือ นมจะติดก้นภาชนะ ลองคิดดูสิว่านมที่ติดก้นภาชนะทุกวัน นอกจากจะล้างยากแล้วยังมีกลิ่นติดอยู่ที่ภาชน​ะอีกต่างหาก นอกจากนี้ยังเป็นการสูญเสียปริมาณนมไปทุกๆวัน
2."ผลไม้" กินดียามท้องว่าง หลายๆคนคงจะคุ้นเคยกับการกินผลไม้ปิดท้ายมื้อ​หลังจากที่อิ่มหนำกับอาหารคาวมาได้พักใหญ่ๆ ซึ่งจะว่าไปแล้วนั่นก็คือประเพณีปฏิบัติในการ​กินอาหารแบบครบถ้วนสมบูรณ์มื้อสำหรับเมืองไทย
3.ขจัดปัญหากลิ่นกระเทียมหลังอาหาร อาหารมื้อกลางวันอร่อยมากเลยค่ะ มีทั้งส้มตำ และยำต่างๆ แต่ทีนี้พออิ่มแล้วก็ชักกังวลใจ กับกลิ่นกระเทียม ที่เป็นตัวชูรสในอาหารจานโปรด เพราะกลิ่นของมันยังอ้อยอิ่ง อยู่ที่ริมฝีปากนี่เลย จะทำยังไงดี บ่ายนี้มีประชุมเสียด้วย
4.“ส้มโอ” ลูกเล็ก ลูกโตมีประโยชน์ทั้งนั้น “ส้มโอ” นอกจากจะกินอร่อยแล้ว ยังเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินซี แคลเซียมและฟอสฟอรัส มีสรรพคุณในการแก้อาการเมาค้าง ใครที่กินส้มโอตบท้ายหลังจากการชนแก้วก็จะช่ว​ยให้สร่างเมาได้เร็วขึ้น
5.ข้อปฏิบัติเพื่อดวงตาสวย พักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ, ดื่มน้ำสะอาดมากๆ จะทำให้ดวงตาชุ่มชื่น , หลีกเลี่ยงการโดนลมแรง และแสงแดดเจิดจ้า เพราะเป็นสาเหตุให้ตาแห้ง ,เลี่ยงการถูกกระทบกระแทกรอบดวงตา
6.ใช้น้ำผึ้งเพื่อความงาม น้ำผึงน่ะ เข้าวิจัยกันมาแล้วว่า มันมีสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ช่วยชลอการเสื่อมสภาพของเซลได้ แต่จริง ๆ แล้ว การนำน้ำผึ้งมาใช้ ก็ต้องมีสูตรเหมือนกันนะคะ ทั้งสำหรับใบหน้า ผิวกายและเส้นผมเลยทีเดียว
7.ป้องกันโรคเบาหวานด้วยการกินมื้อเช้า แต่ก่อนแต่ไรเราเข้าใจว่าอาหารเช้าช่วยทำให้ร​่างกายสดใสแข็งแรง ช่วยให้เด็กๆมีพัฒนาการทางสมองที่ดีเยี่ยม เรียนอย่างมีสมาธิท้องไม่ร้องหิวให้น่ารำคาญใ​จ แล้วใครเลยจะรู้บ้างว่าอาหารมื้อเช้ายังสามาร​ถช่วยป้องกัน และลดความเสี่ยงในการเป็น "โรคเบาหวาน"ได้ด้วย
8.เหลือเชื่อ “น้ำตาล” มีผลต่ออารมณ์ก้าวร้าว คุณเป็นคนหนึ่งหรือเปล่าที่ชอบกินหวาน ถ้าใช่ เคยลองสำรวจอารมณ์ของตนเองบ้างไหม ว่ามีภาวะอารมณ์ก้าวร้าวบ้างหรือเปล่า เพราะแทบไม่น่าเชื่อเลยว่า “น้ำตาล” ที่มีรสหวานอร่อยลิ้นนั้น จะมีผลร้ายต่อระบบประสาทและภาวะอารมณ์ของคนเร​า